วิธีป้องกันบ้านให้ปลอดภัยจากอัคคีภัย


วิธีป้องกันบ้านให้ปลอดภัยจากอัคคีภัย


กว่าเราจะได้เป็นเจ้าของและครอบครองบ้านสักหลังนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะกว่าเราจะตัดสินใจเลือกบ้านและขอสินเชื่อเพื่อกู้ซื้อบ้านสักหลังผ่านก็ต้องใช้เวลาอยู่พอสมควร โดยหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมาก็อาจทำให้เราต้องสูญเสียสินทรัพย์ในฝันอย่างบ้านของเราไปซึ่งก็นับเป็นมูลค่าไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเรื่องของฟืนไฟหรือเหตุอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ และเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้วว่าคงไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องที่อาจส่งผลเสียต่อทรัพย์สินของตนเองสักเท่าไร เพราะนอกจากอาจจะเกิดความเสียหายต่อสินทรัพย์ของตนเองแล้วก็อาจจะส่งผลกระทบไปยังพื้นที่ใกล้เคียงได้อีกด้วย ดังนั้น การมีแผนสำหรับรับมือและป้องกันเหตุไม่คาดฝันอย่างอัคคีภัยหรือไฟไหม้จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงเรื่องอัคคีภัยและเป็นการรักษาทรัพย์สินของคุณให้ปลอดภัย ทางโครงการบ้านจัดสรรแสนสราญ เชียงใหม่ของเราจึงได้รวบรวมเอาเคล็ดลับและวิธีป้องกันอุคคีภัยง่าย ๆ สำหรับป้องกันบ้านของคุณมาฝากในบทความนี้ นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วยลดโอกาสเกิดเหตุไฟไหม้ภายในบ้านของคุณได้อีกด้วย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ที่อยู่อาศัยของคุณมีความปลอดภัย สำหรับใครที่สงสัยว่าวิธีที่จะช่วยป้องกันบ้านให้ปลอดภัยจากอัคคีภัยนั้นมีวิธีไหนบ้างก็สามารถตามไปอ่านในบทความได้เลยค่ะ วิธีที่ 1 – เลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและปลั๊กไฟที่มีมาตรฐาน การเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและปลั๊กไฟที่มีมาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่จะช่วยการรักษาความปลอดภัยในบ้านของคุณและยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะช่วยลดการเกิดอัคคีภัยอีกด้วย เพราะอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างเครื่องใช้ไฟฟ้าและปลั๊กไฟนั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่หลาย ๆ บ้านอาจมองข้ามไป ซึ่งหากคุณได้เห็นหรืออ่านข่าวเกี่ยวกับไฟไหม้ที่อยู่อาศัย โดยส่วนใหญ่แล้วก็มักจจะมีสาเหตุมาจากไฟลัดวงจรและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้นเมื่อคุณจะทำการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้ามาในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ตู้เย็น ไมโครเวฟ เตาไฟฟ้าหรือเครื่องปรับอากาศ รวมไปจนถึงเครื่องฟอกอากาศ ไดร์เป่าผมและปลั๊กไฟทุกชนิด ก็ควรจะเลือกสินค้าที่มีมาตรฐานและได้รับการรับรองจากองค์กรอุตสาหกรรม เนื่องจากเครื่องใช้ไฟฟ้าและปลั๊กไฟที่ได้รับรองว่าผ่านมาตรฐานเหล่านี้ จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดไฟไหม้ในบ้านของคุณได้นั่นเอง เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งที่คุณควรเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพและมีมาตรฐาน เพื่อให้ใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจได้นั่นเอง วิธีที่ 2 – ตรวจเช็คระบบไฟฟ้าและสายไฟอย่างสม่ำเสอ การตรวจเช็คระบบไฟฟ้าและตรวจสอบความเรียบร้อยของสายไฟเป็นขั้นตอนสำคัญขั้นตอนหนึ่งที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรซึ่งเป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น จึงควรเช็คและตรวจสอบระบบไฟและสายไฟอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีสายไฟขาดหรือชำรุด และหากพบว่ามีส่วนใดของระบบไฟฟ้าหรือสายไฟชำรุด ก็ควรทำการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนชิ้นส่วนที่ชำรุดโดยเร็วที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุไฟไหม้ในอนาคต นอกจากนี้ การเลือกใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญอีกด้วย เนื่องจากอุปกรณ์ที่มีคุณภาพดีสามารถช่วยให้ระบบไฟทำงานอย่างเสถียรและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น วิธีที่ 3 – ไม่วางเครื่องใช้ไฟฟ้าชิดกันจนเกินไป ควรวางเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ไม่ชิดกันจนเกินไป เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดความร้อนสะสมระหว่างเครื่องใช้ไฟฟ้าที่อาจทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ ตัวอย่างเช้น ควรวางตู้เย็นโดยเว้นพื้นที่ว่างด้านหลังอย่างน้อย 10 – 15 ซม. รวมถึงวางให้ห่างกับเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่น ๆ เพื่อให้ตู้เย็นสามารถระบายความร้อนได้อย่างเหมาะสม ทั้งยังช่วยรักษาประสิทธิภาพในการทำงานของตู้เย็นและป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการสะสมความร้อน รวมถึงเป็นการยืดอายุการใช้งานของเครื่องและลดโอกาสให้เกิดอุบัติเหตุเช่นการเกิดมอเตอร์หรือขดลวดไหม้ในระยะยาว เป็นต้น วิธีที่ 4 – ถอดปลั๊กอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งาน เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไฟไหม้ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ จึงควรทำการถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งหลังไม่ใช้งาน เพราะการเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ม่ได้ใช้งานทิ้งไว้มักกลายเป็นสาเหตุของการเกิดไฟไหม้หรือไฟฟ้าลัดวงจรขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้งานอยู่บ่อย ๆ เช่น ที่ชาร์จสมาร์ทโฟน ไดร์เป่าผม สายชาร์จแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ต่าง ๆ ควรจะทำการถอดปลั๊กออกทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งาน เพื่อลดโอกาสเกิดการไฟฟ้าช็อตที่อาจเกิดขึ้นได้ วิธีที่ 5 – ปิดวาวล์เตาแก๊สทุกครั้งหลังใช้งานเสร็จ เพื่อความปลอดภัย ควรปิดวาล์วแก๊สหุงต้มทุกครั้งเมื่อใช้งานเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และควรจตรวจเช็คถังแก๊สอยู่เป็นประจำ เนื่องจากมีโอกาสที่แก๊สจะรั่วซึมจากความร้อนและอายุการใช้งาน ซึ่งเป็นสาเหตุของเหตุการณ์อันตรายอย่างเพลิงไหม้ได้ รวมไปจนถึงควรตรวจสอบเครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ ทุกครั้งที่เข้าครัวและรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เช่น ควรทิ้งเศษอาหารให้เรียบร้อย เพราะเศษอาหารอาจเป็นเชื้อเพลิงที่ทำให้ไฟลามได้ง่าน และควรเก็บวัตถุที่ติดไฟง่ายออกจากพื้นที่ใกล้เตาแก๊สและถังแก๊ส เพื่อลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุและป้องกันการเกิดเหตุอันไม่คาดคิด วิธีที่ 6 – ติดตั้งอุปกรณ์นิรภัยอย่างเครื่องตัดไฟรั่ว การติดตั้งเครื่องตัดไฟรั่วนับเป็นอีกวิธีการป้องกันที่ช่วยรักษาความปลอดภัยในบ้านของคุณได้ เพราะเครื่องตัดไฟรั่วนั้นมีหน้าที่ตัดวงจรไฟฟ้าแบบอัตโนมัติเมื่อเครื่องใช้ไฟฟ้ามีการรั่วของไฟเกิดขึ้น ซึ่งเครื่องตัดไฟรั่วจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุในกรณีที่เครื่องใช้ไฟฟ้าจ่ายกระแสไฟฟ้าเกินค่าที่กำหนดหรือมีทำงานที่ไม่เหมาะสม ซึ่งการติดตั้งอุปกรณ์นี้ควรทำโดยช่างฝีมือมืออาชีพ เพื่อให้มั่นใจในประสิทธิภาพและความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าในบ้านและหลังจากการติดตั้งเสร็จสิ้น ก็ควรทดสอบระบบเพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องตัดไฟรั่วทำงานอย่างถูกต้อง และควรทำการตรวจสอบเครื่องตัดไฟรั่วอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้มั่นใจในประสิทธิภาพของอุปกรณ์นี้ วิธีที่ 7 – การทำประกันอัคคีภัยสำหรับที่พักอาศัย การทำประกันอัคคีภัยสำหรับที่พักอาศัยเป็นสิ่งที่ช่วยในการชดเชยค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินและอาคาร เช่น การชดเชยค่าซ่อมแซมหรือการสูญเสียในกรณีที่บ้านหรืออสังหาริมทรัพย์เสียหายจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ซึ่งการทำประกันอัคคีภัยยังช่วยเพิ่มมีความมั่นใจในการรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดให้กับเราได้มากยิ่งขึ้น เพราะจะได้รับการช่วยเหลือทางการเงินในกรณีฉุกเฉิน และสามารถใช้ส่วนแบ่งความคุ้มครองในการปรับปรุงบ้านที่เกิดความเสียหายจากการถูกไฟไหม้ได้ ดังนั้น การทำประกันอัคคีภัยสำหรับที่พักอาศัยจึงเป็นการลงทุนที่มีความสำคัญและช่วยปกป้องทรัพย์สินและชีวิตของเราได้ ...