How to ... ลดอุณหภูมิบ้านในหน้าร้อน พร้อมช่วยประหยัดไฟ


How to ... ลดอุณหภูมิบ้านในหน้าร้อน พร้อมช่วยประหยัดไฟ


ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ เป็นที่รู้กันดีว่าอากาศของประเทศเรานั้นร้อนระอุมากแค่ไหน และหลาย ๆ คนก็คงกังวลกันมากว่าค่าไฟในหน้าร้อนนั้นจะพุ่งสูงจากการเปิดแอร์สู้กับสภาพอากาศภายนอก แต่จริง ๆ แล้วนั้นเราสามารถประหยัดค่าไฟบ้านได้ง่าย ๆ เพียงแค่เราหาตัวช่วยทำให้บ้านของเราเย็นลงได้ในหน้าร้อน และสำหรับใครที่กำลังสงสัยว่าจะทำอย่าไรให้สามารถลดอุณหภูมิบ้านในหน้าร้อน พร้อมกับช่วยประหยัดค่าไฟ วันนี้ทางโครงการบ้านจัดสรรแสนสราญ จ.เชียงใหม่ก็ได้รวบรวมเอาเทคนิคสำหรับช่วยลดอุณภูมิบ้านของเราในหน้าร้อนมาฝากทุกคนในบทความนี้กันค่ะ รวมวิธีปรับอุณหภูมิบ้านให้เย็นขึ้น ช่วยลดค่าใช้จ่ายอย่าง “ค่าไฟ” ในระยะยาว 1. ทำการติดตั้งฉนวนกันความร้อน การติดตั้งฉนวนกันความร้อนบริเวณหลังคาบ้านนั้นนับเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดอุณหภูมิให้กับบ้านของเราได้แถมยังนับเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดวิธีหนึ่งด้วย ซึ่งหากเราต้องการให้บ้านของเรามีอากาศที่ถ่ายเทและมีความสบายในช่วงฤดูร้อน เราก็ควรให้ความสำคัญมาก ๆ กับการติดฉนวนสำหรับใช้กันความร้องจากบริเวณหลังคาบ้าน เนื่องจากความร้อนส่วนใหญ่มักเกิดจากการที่แสงจากดวงอาทิตย์ทนั้นตกกระทบลงมายังหลังคาของบ้าน ซึ่งหากไม่มีการป้องกันความร้อนด้วยการติดตั้งฉนวนกันความร้อนบนหลังคา อุณหภูมิภายในบ้านก็จะเพิ่มขึ้นได้มากกว่าปกติ ทั้งนี้ในปัจจุบันนั้นฉนวนกันความร้อนสำหรับใช้ติดตั้งเอาไว้บริเวณหลังคาก็มีวัสดุที่ให้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ฉนวนกันความร้อนแบบอลูมิเนียมฟอยล์ (Aluminum Foil), ฉนวนกันความร้อนแบบโพลีเอธิลีนโฟม (Polyethylene Foam-PE), ฉนวนกันความร้อนแบบบับเบิลฟอยล์ (Air Bubble หรือ Bubble Foil) และฉนวนกันความร้อนแบบไฟเบอร์กลาส (Fiberglass) ซึ่งเมื่อเราทำการติดตั้งแล้วฉนวนกันความร้อนก็จะช่วยดูดซับความร้อนจากแสงอาทิตย์และยังช่วยป้องกันความร้อนจากหลังคาเข้าสู่ตัวบ้าน ทำให้สามารถคงอุณหภูมิภายในบ้านได้ 2. ใช้สีทาบ้านเป็นสีโทนเย็น การเลือกใช้สีทาบ้านเป็นสีโทนเย็นนับเป็นอีกวิธีที่ดีที่ช่วยให้บ้านของเรามีความเย็นสบายมากขึ้นในช่วงที่ต้องเผชัญกับอากาศร้อน ๆ ในฤดูร้อน ซึ่งการเลือกใช้สีทาบ้านได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมจะสามารถช่วยลดอุณหภูมิในบริเวณภายในบ้านลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยตัวอย่างของสีทาบ้านที่เป็นที่นิยมในการใช้เพื่อเพิ่มความเย็นจะเป็นโทนสีเขียวและสีฟ้า เนื่องจากเป็นโทนสีที่ช่วยสร้างบรรยากาศที่เย็นสบายให้กับบ้านและยังเป็นโทนสีที่ไม่กักเก็บความร้อนรวมไปถึงมีความสบายตา จึงทำให้เวลาเราอาศัยอยู่ภายในบ้านจะรู้สึกว่าบ้านไม่ได้มีอุณหภูมิที่สูงมากนัก นอกจากนี้ เรายังสามารถเลือกใช้สีโทนเย็นสีอื่น ๆ ได้ด้วยเช่นกัน โดยควรเลือกสีที่เป็นสีโทนอ่อน ๆ หรือโทนสีที่ไม่เข้มมากจนเกินไป เช่น สีเบจหรือสีเทาอ่อน ซึ่งนอกเหนือจากนี้ ในปัจจุบันยังมีนวัตกรรมสีทาบ้านที่มีสารพิเศษที่ช่วยเป็นฉนวนกันความร้อนประกอบอยู่ด้วย ซึ่งเป็นสีที่สามารถสะท้อนความร้อนที่กระทบกับตัวบ้านได้ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการขช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้านและยังช่วยเพิ่มความเย็นให้กับบ้านอีกด้วย 3. ติดตั้งผ้าม่านและอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันแสงแดด การติดตั้งผ้าม่านและอุปกรณ์สำหรับช่วยป้องกันแสงแดดเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดอุณหภูมิภายในบ้านในช่วงฤดูร้อนได้เป็นอย่างดี ซึ่งม่านกันแดดจะช่วยลดการสะท้อนของแสงแดดที่ส่องเข้ามาในบ้านและช่วยให้บรรยากาศในบ้านมีความสบายมากขึ้น โดยการเลือกใช้ม่านกันแดดที่มีควาบทึบแสงจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลดความร้อนได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน และนอกจากการติดตั้งผ้าม่านกันแดดแล้ว ฟิล์มกรองแสงก็เป็นตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพในการลดความร้อนภายในบ้านได้ด้วยเช่นกัน เพราะฟิล์มกันแดดจะมีสารที่เป็นฉนวนกันความร้อนประกอบอยู่ ซึ่งช่วยลดความเข้มของแสงแดดและช่วยป้องกันรังสีต่าง ๆ ที่สาดส่องเข้ามาในบ้านได้ ทั้งยังสามารถช่วยลดการกระทบของรังสีความร้อนจากแสงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามาในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การติดตั้งกันสาดยังเป็นอีกวิธีหนึ่งในการป้องกันการส่องเข้ามาของแสงแดดและลดการกระทบของรังสีจากแสงอาทิตย์ ซึ่งช่วยให้บ้านของเรามีอุณหภูมิที่เย็นสบายมากขึ้นและยังใช้สำหรับกันน้ำฝนสาดเข้ามาในบ้านได้อีกด้วย 4. ปลูกต้นไม้เพื่อสร้างร่มเงา การปลูกต้นไม้เพื่อสร้างร่มเงาเป็นอีกวิธีที่หลาย ๆ คนใช้ช่วยลดความร้อนในบ้านมากที่สุดวิธีหนึ่งซึ่งนับเป็นวิธีที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ โดยการปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่จะช่วยให้บ้านของเรามีร่มเงาเพิ่มมากขึ้นและช่วยบดบังแสงจากดวงอาทิตย์ไม่ให้สาดลงตัวบ้านโดยตรง นอกจากนี้ การปลูกต้นไม้ยังมีข้อดีในด้านอื่น ๆ อีกหลายด้าน เช่น เพิ่มพื้นที่สีเขียวและความสดชื่นให้กับบ้าน สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เป็นต้น 5. เลือกใช้หลอดไฟแบบ LED การเลือกใช้หลอดไฟ LED เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดความร้อนในบ้านได้ เนื่องจากหลอดไฟ LED มีการปล่อยพลังงานความร้อนน้อยกว่าหลอดไฟฟ้าแบบทรานซิสเตอร์ (incandescent bulbs) หรือหลอดไฟแบบเก่า ดังนั้น การเปลี่ยนหลอดไฟเป็นหลอดแบบ LED จึงช่วยลดการสร้างความร้อนภายในบ้านของเราได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ หลอดไฟ LED ยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าหลอดไฟฟ้าแบบอื่น ๆ และมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากไม่มีการสร้างความร้อนมากเหมือนหลอดไฟฟ้าแบบเก่าด้วย ...