“โซฟา” เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งที่แทบทุกบ้านต้องมีและยังเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกใช้งานอยู่เป็นประจำ เพราะนอกจากจะช่วยเติมเต็มการตกแต่งห้องให้มีความน่าอยู่และน่าใช้งานแล้วยังช่วยเพิ่มความสบายในการใช้งานพื้นที่ใช้สอยให้กับเราในเวลาที่เราพักผ่อนอยู่ที่บ้านอีกด้วย แต่ด้วยความที่โซฟาเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ค่อนข้างจะเก็บสะสมฝุ่นได้ดีและเปื้อนคราบต่าง ๆ ได้ง่าย จึงทำให้หลาย ๆ คนมีความกังวลในเรื่องของความสะอาดและความปลอดภัยในการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากโซฟาที่เราเลือกใช้ในบ้านนั้นเป็นโซฟาผ้าแล้วล่ะก็ หากไม่ขยันทำความสะอาดโซฟาผ้าของเราก็ยิ่งมีฝุ่นเยอะกันไปใหญ่ ซึ่งคงจะไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพของทั้งตัวเราเองและสมาชิกภายในครอบครัวของเราแน่ ๆ ทั้งนี้ โซฟาผ้าโดยหลัก ๆ แล้วถูกแบ่งย่อย ๆ ออกไปอีก 2 ประเภท นั่นก็คือ โซฟาผ้าแบบมีปลอกซึ่งสามารถถอดออกและนำไปซักทำความสะอาดได้ ซึ่งโดยส่วนมากจะเป็นปลอกโซฟาแบบมีซิปที่สามารถรูดเปิดซิปแล้วนำปลิกโซฟาไปซักได้เลย กับโซฟาผ้าแบบถอดเอาปลอกไปซักทำความสะอาดไม่ได้ ซึ่งจะมีความยุ่งยากในการทำความสะอาดมากกว่าโซฟาแบบถอดปลอกได้ วันนี้ทางโครงการบ้านจัดสรรแสนสราญ เชียงใหม่ จึงได้รวบรวมเอาวิธีการทำความสะอาดโซฟาผ้าให้สะอาดเอี่ยมและไร้กังวลเรื่องฝุ่น มาฝากทุกคนให้ได้อ่านและนำเทคนิคต่าง ๆ ซึ่งเป็นประโยชน์ไปใช้กันค่ะ จะมีวิธีอะไรที่ช่วยให้เราทำความสะอาดโซฟาผ้าให้สะอาดเอี่ยมจากคราบสกปรกต่าง ๆ รวมถึงลดการสะสมฝุ่นกันบ้าง ตามไปดูกันเลย!
วิธีทำความสะอาดโซฟาผ้าง่าย ๆ ให้สะอาดเอี่ยมและไร้ฝุ่น
1. ทำความสะอาดโซฟาด้วยเครื่องดูดฝุ่น ด้วยความที่ผ้าเป็นวัสดุที่มีผิวสัมผัสที่ฝุ่นสามารถจับหรือเกาะได้ง่าย จึงส่งผลให้โซฟาผ้าเป็นแหล่งสะสมฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกชั้นเยี่ยม ซึ่งอุปกรณ์ที่ช่วยให้เราทำความสะอาดโซฟาผ้าไดง่ายที่สุดก็คือเครื่องดูดฝุ่น เพราะเครื่องดูดฝุ่นนับเป็นอุปกรณ์สามารถช่วยดูดเศษสิ่งสกปรกและฝุ่นต่าง ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ตามซอกมุมต่าง ๆ ภายในโซฟาผ้าได้เป็นอย่างดีแถมยังเป็นวิธีที่ทำเองได้ง่าย ๆ ซึ่งการทำความสะอาดโซฟาผ้าด้วยเครื่องดูดฝุ่นยังช่วยลดการสะสมของฝุ่นและความเสี่ยงของการเกิดโรคภูมิแพ้ได้อีกด้วย
2. ทำความสะอาดโซฟาด้วยเบกกิ้งโซดา การทำความสะอาดโซฟาผ้าด้วยเบกกิ้งโซดาเป็นอีกวิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดทั้งโซฟาผ้าแบบถอดปลอกได้และโซฟาผ้าแบบถอดปลอกไม่ได้ที่เลอะคราบอาหารหรือเครื่องดื่ม โดยทำการซับน้ำหรือคราบสกปรกออกก่อน แล้วโรยเบกกิ้งโซดาไปที่โซฟา แล้วทิ้งเอาไว้อย่างน้อย 20-30 นาที จากนั้นใช้แปรงขัดเช็ดทำความสะอาด เพื่อช่วยลดคราบเลอะที่ฝังติดอยู่ในเนื้อผ้าโซฟาได้อย่างหมดจด นอกจากนี้ ยังสามารถใช้เบกกิ้งโซดาเพื่อช่วยลดกลิ่นอับได้อีกด้วย
3. ทำความสะอาดโซฟาด้วยน้ำยาทำความสะอาด การทำความสะอาดโซฟาด้วยน้ำยาทำความสะอาดเป็นวิธีที่ช่วยให้เราสามารถทำความสะอาดโซฟาได้ง่ายขึ้น เนื่องจากน้ำยาทำความสะอาดเป็นตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพในการช่วยลดคราบสกปรกที่ฝังแน่นอยู่บนโซฟาได้เป็นอย่างดี แต่ก็เป็นวิธีที่ควรระมัดระวังเรื่องความแรงของน้ำยาต่อเนื้อผ้า โดยควรเลือกน้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสม เพราะหากน้ำยามีความแรงเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อวัสดุผ้าของโซฟาได้ ดังนั้น จึงควรเลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีความเข้มข้นไม่มากจนเกินไป เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับโซฟาผ้าในระยะยาว โดยการทำความสะอาดโซฟาผ้าด้วยวิธีนี้จะช่วยให้โซฟาผ้าสะอาด ปราศจากเชื้อโรคและไร้กลิ่นอับอีกด้วย
4. ทำความสะอาดโซฟาด้วยน้ำส้มสายชู น้ำส้มสายชูไม่เพียงแค่เป็นวัตถุดิบสำหรับปรุงอาหารเท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติที่มีประโยชน์ในการช่วยทำความสะอาดคราบสกปรกด้วย ดังนั้น หากต้องการกำจัดคราบสกปรกบนโซฟาก็สามารถผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำอุ่นและน้ำยาล้างจานเพื่อทำเป็นน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ จากนั้นนำน้ำยาที่ผสมเอาไว้มาใส่ในขวดสเปรย์เพื่อใช้ฉีดพ่นบนคราบสกปรกบริเวณโซฟา แล้วฉีดให้ทั่วทั้งบริเวณที่สกปรกหรือเป็นคราบเลอะ จากนั้นใช้ผ้าสะอาดเช็ดคราบออก หลังจากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เพื่อเช็ดทำความสะอาดอีกครั้ง เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้โซฟาผ้าของคุณสะอาดเหมือนใหม่อีกครั้ง
5. ทำความสะอาดโซฟาด้วยโซดา อีกหนึ่งไอเทมในห้องครัวที่นอกจากนำไปทำอาหารและเครื่องดื่มแล้วยังใช้ช่วยทำความสะอาดคราบสกปรกได้นั่นก็คือ “โซดา” หากโซฟาผ้าของเรานั้นเปื้อนคราบเครื่องดื่มอย่างชา กาแฟ หรือน้ำหวานก็สามารถนำโซดามาราดบริเวณที่เป็นคราบได้ โดยหากจะทำความสะอาดโซฟาด้วยวิธีนี้ก็ควรจะกะปริมาณโซดาที่ใช้ให้พอดี ไม่มากจนเกินไปและเมื่อราดโซดาลงบนคราบสกปรกบริเวณโซฟาแล้วก็ให้ใช้ผ้าสะอาดค่อย ๆ ซับเอาคราบสกปรกออก เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้โซฟาสะอาดขึ้นได้
6. ใช้อุปกรณ์สำหรับทำความสะอาดเบาะผ้าโดยเฉพาะในการทำความสะอาดโซฟา นอกจากเครื่องดูดฝุ่นแล้วยังมีอีกไอเทมหนึ่งที่ช่วยทุ่นแรงในการทำความสะอาดโซฟาได้นั่นก็คือ เครื่องทำความสะอาดเบาะผ้า ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยในการทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์หรือสิ่งต่าง ๆ ที่ทำจากวัสดุผ้าโดยเฉพาะ โดยสามารถทำความสะอาดได้ง่าย ๆ เพียงฉีดน้ำไปในบริเวณที่มีคราบหรือบริเวณที่มีความสกปรก แล้วใช้เครื่องทำความสะอาดเบาะผ้าดูดเอาสิ่งสกปรกออก
...