รู้หรือไม่? ว่าสีทาบ้านนั้นนับเป็นองค์ประกอบสำคัญองค์ประกอบหนึ่งที่ทำให้บ้านของเราดูมีความสวยงาม น่าอยู่และมีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก และเพื่อให้บ้านของเรามีสวยงามและดูสมบูรณ์แบบมากที่สุด การเลือกใช้สีทาบ้านก็นับว่าเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญและใส่ใจเป็นพิเศษเช่นเดียวกันกับการออกแบบดีไซน์บ้าน เพราะหากเราเลือกสีที่ไม่เหมาะสมกับสไตล์การตกแต่งบ้านหรือทำการจับคู่โทนสีที่ไม่เข้ากันมาใช้ในการทาสีบ้านก็อาจจะทำให้ภาพรวมของบ้านที่เราต้องการไม่เป็นไปตามที่เราคิดไว้ ดังนั้น การเลือกสีที่เหมาะสมจึงต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยควรพิจารณาถึงสไตล์และดีไซน์ของตัวบ้านและก็ควรพิจารณาถึงสภาพแวดล้อมรอบ ๆ บ้านด้วย เพื่อให้สามารถเลือกสีที่เหมาะสมกับการใช้ชีวิตประจำวันและสภาพแวดล้อมของบ้านได้อย่างเหมาะสมที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดที่อาจทำให้เราต้องเสียทั้งเวลาและเสียทั้งเงินไป ซึ่งสำหรับใครที่อยากรู้ส่าควรจะเลือกสีทาบ้านยังไง วันนี้ทางโครงการบ้านแสนสราญ เชียงใหม่ ก็ได้รวบรวมเอาข้อมูลมาไว้ในบทความนี้ให้ทุกคนได้นำไปใช้ประกอบในการพิจารณาเลือกสีทาบ้านกันแล้วค่ะ
เทคนิคที่ 1 – เริ่มต้นจากการเลือกสีที่ชอบ สำหรับเทคนิคแรกที่ง่ายที่สุดคือการเลือกสีที่ชอบก่อน เพราะการที่เราจะมีบ้านที่สวยและตรงใจได้นั้น สิ่งแรกที่สำคัญมากที่สุดก็คือความชอบของตัวเราเอง ดังนั้น จึงควรเริ่มเลือกจากสีที่ชื่นชอบแล้วค่อยนำไปจับคู่สีอีกทีว่าสีที่เลือกนั้นมีความเข้ากันกับสีโทนไหน หรืออาจจะเลือกสีทาบ้านโดยหาตัวอย่าง (Reference) บ้านในแบบที่ตัวเราเองชอบเพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจในการเลือกสีรวมถึงใช้ในการเปรียบเทียบโทนสีก่อนที่จะเลือกสีจริง ๆ มาใช้ในการทาสีบ้าน
เทคนิคที่ 2 – เลือกจับคู่สีให้เป็น สำหรับการจับคู่สีให้ได้โทนสีที่เข้ากันและมีความลงตัวเราสามารถเริ่มจับคู่สีง่าย ๆ ได้โดยการเลือกจับคู่โทนสีที่มีความใกล้เคียงกันหรือเลือกสีที่มีโทนสีไปในโทนเดียวกัน เพื่อเสริมให้บ้านของเราดูมีมิติและดูสบายตา น่าอยู่มากยิ่งขึ้นหรือเพิ่มความสนุกด้วยการจับกลุ่มสีมาทั้งหมด 3 สีแล้วแบ่งอัตราส่วนการใช้สีออกเป็นสีหลัก สีรองและสีสำหรับใช้สร้างมิติ โดยเลือกกำหนดการใช้สีหลักในอัตรา 60% และกำหนดการใช้สีรองในอัตรา 30% และใช้สีเสริมสำหรับทาเพื่อสร้างมิติให้กับบ้านในอัตรา 10% หรือสำหรับใครที่ชอบความเรียบง่ายก็สามารถเลือกใช้สีหลักเป็นสีเพียงสีเดียวได้เช่นกัน
เทคนิคที่ 3 – เลือกโทนสีที่กลมกลืนไปกับสิ่งแวดล้อมโดยรอบบ้าน อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญในการเลือกโทนสีก็คือการเลือกโทนสีให้เข้ากันกับสิ่งแวดล้อมรอบข้าง เพื่อให้บ้านของเรามีความสมบูรณ์และสวยงามกลมกลืนไปกับสิ่งแวดล้อมรอบข้างรวมถึงช่วยให้มีความเป็นส่วนตัวและผ่อนคลายในการอยู่อาศัยด้วย
เทคนิคที่ 4 – ทดลองสีก่อนจะนำมาทาจริง การทดสอบสีก่อนที่จะนำมาทาจริงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงในการได้สีที่ไม่ตรงตามความต้องการได้ ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดคือการทาสีทดลองบนผนังหรือพื้นที่เล็ก ๆ ในบ้าน เพื่อดูว่าสีจริงที่ทานั้นตรงกับสีที่เล็งไว้หรือไม่
เทคนิคที่ 5 – เลือกสีทาบ้านให้เหมาะสมกับการใช้งาน การเลือกสีทาบ้านให้มีความเหมาะสมกับการใช้งานนับเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้สีทาบ้านมีความทนทานและไม่เสื่อมสภาพก่อนเวลา ดังนั้นเราจึงควรเลือกใช้สีตามประเภทของการใช้งาน เช่น การทาสีภายนอกบ้าน ควรเลือกสีที่มีความทนทานต่อสภาพอากาศ ทนต่อแสงแดด ฝน ละอองน้ำ และความชื้น เพื่อให้สีทาบ้านมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และการทาภายในบ้าน ควรเลือกให้ตรงกับสไตล์การตกแต่งภายในบ้านและเลือกสีที่มีคุณภาพและมาตรฐาน เพื่อให้ได้รับทั้งความปลอดภัยและตอบโจทย์มากที่สุด เป็นต้น
เทคนิคที่ 6 – เลือกสีทาบ้านแบบสีกันความร้อน ควรเลือกสีทาบ้านที่เป็นสีแบบกันร้อน เพื่อช่วยลดความร้อนในบ้านในช่วงเวลาที่อากาศร้อน ๆ เพราะสีทาบ้านมีคุณสมบัติเป็นเสมือนฉนวนและสามารถสะท้อนความร้อนออกไปได้จะช่วยลดความร้อนในบ้านอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ สีที่ช่วยให้บ้านเย็นมากขึ้นยังสามารถช่วยลดการใช้พลังงานและค่าใช้จ่ายในการใช้ไฟฟ้าด้วย ซ฿งเป็นประโยชน์มาก ๆ ต่อการดำเนินชีวิตอยู่ภายในบ้านระยะยาว
เทคนิคที่ 6 – เลือกสีทาบ้านที่มีความเข้ากันกับสไตล์ของบ้านและเข้ากันกับสไตล์การตกแต่ง การเลือกทาสีตามสไตล์ของบ้านเป็นวิธีที่ดีวิธีหนึ่งที่ช่วยให้บ้านมีความสมดุลและสวยงามแถมยังตรงกับสไตล์ที่เราต้องการ ดังนั้น หากเรารู้ว่าเราชอบสไตล์บ้านแบบไหนก็สามารถเลือกโทนสีโดยอิงจากสไตล์บ้านและสไตล์การตกแต่งได้เช่นกัน
เทคนิคที่ 8 – ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ การปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสีเป็นวิธีที่ดีที่ช่วยให้เราสามารถเลือกสีทาบ้านที่ตอบโจทย์และเหมาะสมกับการใช้งานได้ เพราะจะทำให้ได้คำแนะนำและคำตอบที่ชัดเจนในการเลือกสีทาบ้าน เพราะผู้ที่เชี่ยวชาญจะมีความรู้และประสบการณ์ที่สามารถช่วยให้เราสามารถเลือกสีที่เหมาะสมกับบ้านของเราได้อย่างแม่นยำและยังช่วยให้เราเข้าใจถึงโทนสีต่าง ๆ และสามารถรู้ได้ว่าแสงในจุดต่าง ๆ ของบ้านจะมีผลต่อการแสดงสีเวลาทาบ้านแบบไหน ซึ่งทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนการเลือกโทนสีให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของบ้านได้มากที่สุดด้วย
...