รวมค่าใช้จ่ายที่ต้องรู้ก่อนจะซื้อบ้านสักหลัง


รวมค่าใช้จ่ายที่ต้องรู้ก่อนจะซื้อบ้านสักหลัง


สำหรับใครหลาย ๆ คน “บ้าน” หรือที่อยู่อาศัยซึ่งไม่ว่าจะเป็นคอนโด ทาวน์โฮมหรืออาคารพาณิชย์ต่างเป็นความใฝ่ฝันหนึ่งที่เป็นเป้าหมายในการใช้ชีวิต เพราะหลาย ๆ คนก็อยากจะซื้อบ้านหรือคอนโดเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของตนเองรวมไปถึงใช้ในการสร้างครอบครัวและยังเป็นการเพิ่ทความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิตประจำวันรวมไปจนถึงการเดินทางไปทำงาน ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดที่มักจะถูกพิจารณาก่อนเป็นอันดับแรก ๆ เลยก็คือ “ค่าผ่อนชำระบ้าน” เพราะโดยส่วนมากแล้วเรามักจะต้องอยู่กับค่าผ่อนชำระบ้านนี้เป็นระยะเวลานาน ซ฿งสินเชื่อกู้บ้านส่วนใหญ่ก็กินเวลายาวนานถึง 20 - 40 ปีขึ้นไป แต่ในความเป็นจริงแล้วนอกจากค่าผ่อนบ้านก็ยังมีค่าใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ ด้วยเช่นกันที่เราจะต้องทำการพิจารณาด้วย ไม่ว่าจะเป็ค่าใช้จ่ายอย่างเช่น ค่าโอนที่ดิน ค่าโอนกรรมสิทธิ์ ค่าจดจำนองและค่าประกันอัคคีภัยหรือค่าประกันอื่น ๆ ที่เกี่ยวบ้าน ดังนั้น เมื่อเราตัดสินใจที่ซื้อบ้านหรือที่อยู่อาศัยสักแห่งก็ควรที่จะทำการพิจารณาให้รอบคอบ ไม่เพียงคำนึงถึงแค่ค่าผ่อนชำระบ้านในอนาคตแต่ยังควรคำนึงถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่อาจต้องเกิดขึ้นตามมา เช่น ค่าธรรมเนียมในขั้นตอนการจอง ขอสินเชื่อ ค่าใช้จ่ายในวันโอนที่ดินและค่าใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ ที่กล่าวมาก่อนหน้าในนี้ในเบื้องต้นด้วย วันนี้ทางโครงการแสนสราญจึงจะมาแจกแจงค่าใช้จ่ายที่คุณควรจะรู้ก่อนจะตัดสินใจซื้อบ้านหรือที่อยู่สักแห่ง เพื่อให้คุณสามารถนำไปวางแผนทางการเงินและใช้ในการพิจารณาตัดสินใจซื้อบ้านกันค่ะ โดยค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้านสักหลังนั้นจะมีอะไรบ้าง สามารถตามอ่านต่อในบทความด้านล่างนี้ได้เลย ค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้านหรือที่อยู่อาศัยที่ควรจะทำการพิจารณา ค่าจองบ้านหรือค่ามัดจำและค่าทำสัญญาซื้อ – ขายบ้าน หลังตัดสินใจเลือกบ้านหรือที่อยู่อาศัยที่ถูกใจแล้ว ส่วนใหญ่โครงการบ้านหลาย ๆ โครงการมักจะให้เราจ่ายเงินจองบ้านหรือที่อยู่อาศัยที่เราเลือกไว้เสียก่อน ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะอยู่ประมาณที่ 3,000 - 5,000 บาทขึ้นไป เพื่อเป็นรับประกันว่าผู้ซื้อจะซื้อบ้านหรือที่อยู่อาศัยนั้น ๆ ตามข้อตกลง ซึ่งอาจมีการปรับเปลี่ยนราคาขายแตกต่างกันไปตามข้อกำหนดของโครงการแต่ละโครงการ ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้สามารถตรวจสอบได้จาก "ใบเสนอราคา" ซึ่งสามารถขอได้จากเจ้าหน้าที่โครงการได้โดยตรง รวมไปถึงบางโครงการก็อาจมีการคิดค่าทำสัญญาซื้อ – ขายบ้านเพิ่มเข้าไปด้วย เงินดาวน์ เป็นค่าใช้จ่านอีกส่วนที่สำคัญที่จะไม่ควรละเลย เนื่องจากการซื้อบ้านในบางโครงการก็มีการให้วางเงินดาวน์อย่างน้อย 5-20% ของราคาบ้าน และในบางโครงการยังมีระบบผ่อนชำระเงินดาวน์เป็นงวดก่อนทำการโอนกรรมสิทธิ์หรือที่เรียกกันว่า "การผ่อนดาวน์" อีกด้วย ซึ่งการเตรียมเงินดาวน์เอาไว้ล่วงหน้าก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงเรื่องการขอสินเชื่อและยังเป็นการแสดงความสามารถในการจ่ายเงินล่วงหน้าของผู้ซื้อบ้านอีกด้วย ค่าประเมินราคาบ้าน โดยส่วนใหญ่เมื่อทำการขอสินเชื่อบ้านกับธนาคาร ธนาคารก็มักเรียกเก็บ "ค่าประเมินราคา" จากผู้ขอสินเชื่อเพื่อกู้บ้าน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการประเมินมูลค่าของบ้าน โดยค่าประเมินราคาบ้านจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 - 3,000 บาท โดยค่าใช้จ่ายในส่วนนี้อาจมีความแตกต่างไปตามนโยบายและโปรโมชั่นของแต่ละธนาคาร โดยในบางครั้งธนาคารอาจยกเว้นค่าประเมินราคาหรือจะให้ค่าประเมินราคาให้ฟรี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคารในแต่ละช่วงเวลาและโปรโมชั่นที่มีอยู่ ค่าจดจำนองบ้าน เป็นค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้กู้เงิน เพื่อการจดทะเบียนสิทธิการเป็นผู้ถือหลักประกันในกรมที่ดิน จำนวนเงินที่ต้องจ่ายมักคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของวงเงินที่กู้ ค่าโอนกรรมสิทธิ์ เป็นค่าใช้จ่ายในการโอนสิทธิในที่ดินจากเจ้าของเดิมไปยังเจ้าของใหม่ ประกอบด้วยค่าธรรมเนียมจดทะเบียนและอากรแสตมป์ ซึ่งมักจะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าทรัพย์สิน และในบางกรณีอาจมีการแบ่งค่าใช้จ่ายนี้ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย โดยทั่วไปแล้วจะแบ่งเป็นส่วนเท่า ๆ กันทั้งสองฝ่าย ค่าอากรแสตมป์ เป็นค่าใช้จ่ายที่คิดจากการทำรายการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการโอนทรัพย์สิน ซึ่งมักคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกโอน และอาจต้องการการเจรจากันระหว่างฝ่ายขายและฝ่ายซื้อ เพื่อกำหนดให้ชัดเจนว่าใครจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายนี้ ค่าเบี้ยประกันบ้าน เป็นค่าใช้จ่ายที่หลายคนมักละเลยหรือลืมคำนึงถึง โดยเมื่อขอสินเชื่อบ้านแล้วส่วนใหญ่ทางธนาคารมักจะให้ทำประกันวินาศภัยหรืออัคคีภัยตามกฎหมาย โดยเบี้ยประกันจะขึ้นอยู่กับมูลค่าของบ้าน ซึ่งหากซื้อบ้านที่มีราคาสูงก็จะต้องจ่ายเบี้ยประกันมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเบี้ยประกันบ้านส่วนใหญ่มักจะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 0.10 – 0.45% ของทุนประกันหรือคิดเป็นเงินประมาณ 1,000 บาทต่อปี หรืออาจมีราคาค่าเบี้ยที่สูงกว่านั้นตามแต่เงื่อนไขของการทำประกัน ซ฿งโดยส่วนใหญ่แล้วเพื่อความสะดวกสบายของผู้กู้ ธนาคารก็มักจะเรียกเก็บเบี้ยประกันภัยนี้พร้อมค่าผ่อนชำระบ้านเป็นรายเดือน ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง ในบางโครงการบ้านอาจมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายสำหรับส่วนกลางซึ่งจะเป็นค่าใช้จ่ายที่ถูกใช้ในการบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่ส่วนกลางที่อนุญาตให้ลูกบ้านในโครงการสามารถมาใช้งานร่วมกันได้ ไม่ว่าจะเป็น การรักษาความปลอดภัย เครื่องสำรองไฟฟ้า การบำรุงรักษาพื้นที่สีเขียว เป็นต้น ซึ่งค่าส่วนกลางมักจะขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ของโครงการหรือขึ้นอยู่กับความครอบคลุมของสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทางโครงการมีให้และจะถูกเรียกเก็บเป็นรายเดือนหรือรายปีตามที่กำหนดไว้ในข้อตกลงของโครงการ ...