บ้านนับเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับทุกคนในครอบครัว และในแต่ละครอบครัวก็มักจะมีสมาชิกอยู่อย่างหลากหลายช่วงวัยหรือหลาย Generation ซึ่งด้วยความที่สมาชิกภายในครอบครัวนั้นมีช่วงอายุที่แตกต่างกันไป จึงทำให้ความชื่นชอบและความต้องการของทุกคนต่างกันออกไปด้วย การสร้างสมดุลที่ดีให้กับพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรจะให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากจะเป็นการทำให้สมาชิกทุกคนภายในครอบครัวนั้นสามารถมีประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ตรงตามความต้องการและด้ใช้ชีวิตได้อย่างเป็นส่วนตัวได้มากที่สุด เพราะบ้านที่ดีคือบ้านที่สามารถมอบความอบอุ่นในการอยู่อาศัยร่วมกันของคนในครอบครัวได้ และในเวลาเดียวกัน สมาชิกภายในบ้านก็ยังคงมีพื้นที่ส่วนตัวเพียงพอที่จะรับประสบการณ์ส่วนตัวและมีได้ใช้ชีวตตามไลฟ์สไตล์ในแบบที่ตัวเองต้องการ ดังนั้น เราจึงควรออกแบบพื้นที่ในบ้านเพื่อให้มีทั้งพื้นที่ส่วนตัวอย่างเพียงพอและมีพื้นที่เพื่อการพักผ่อนของแต่ละคนในบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการ เพื่อให้ทุกคนสามารถมีชีวิตที่สมดุลและดำเนินชีวิตประจำวันอย่างลงตัวกับตัวเองได้ในบ้าน วันนี้ทางโครงการแสนสราญจึงรวบรวมเอารวมแนวทางสำหรับตกแต่งภายในที่สามารถตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัวมาฝากในบทความนี้กันค่ะ
แนวทางที่ 1 สอบถามความต้องการของสมาชิกในครอบครัว การสอบถามความต้องการของสมาชิกในครอบครัว นับเป็นขั้นตอนสำคัญขั้นตอนหนึ่ง เพราะจะทำให้การตกแต่งภายในบ้านมีความสอดคล้องกับการใช้ชีวิตและความต้องการของสมาชิกแต่ละคนได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น การเริ่มต้นโดยการสอบถามความต้องการจึงเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ได้พื้นที่ภายในบ้านที่ตอบสนองต่อความต้องการและได้พื้นที่ที่เป็นประโยชน์สำหรับทุกคนในครอบครัว โดยควรสอบถามถึงฟังก์ชันที่สมาชิกในครอบครัวอยากได้, แบบห้องหรือบ้านที่ต้องการและรูปแบบการใช้งานแต่ละพื้นที่ของสมาชิกแต่ละคน เพื่อจะจัดการเรื่องการตกแต่งภายในได้อย่างเป็นไปตามความต้องการของสมาชิกในครอบครัว และยังช่วยให้บ้านกลายเป็นที่อยู่อาศัยที่เต็มไปด้วยความสุขและความพอใจสำหรับทุกคนในครอบครัวรวมถึงยังเป็นการลงทุนที่มั่นคงและคุ้มค่าในระยะยาวอีกด้วย
แนวทางที่ 2 ตกแต่งพื้นที่ใช้สอยให้สามารถการใช้งานได้อย่างยืดหยุ่นและเหมาะกับการใช้งานมากกว่ารูปแบบเดียว การตกแต่งภายในควรจะต้องมีการออกแบบที่เรียบง่ายและเน้นในเรื่องของความโปร่งโล่ง สบาย โดยเน้นไปที่การเปิดใช้ช่องแสงอย่างเหมาะสม เพื่อเพิ่มความปลอดโปร่งในห้องให้มากขึ้นเป็นพิเศษ และให้ความสำคัญกับการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์ที่ไม่ตายตัวและมีสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้อย่างยืดหยุ่นหรือสามารถปรับเปลี่ยนและประยุกต์ใช้งานได้ และยังควรออกแบบให้ห้องมีฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันในพื้นที่เดียว เช่น ห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่น เราก็สามารถเลือกใช้โต๊ะทานอาหารที่มีขนาดเล็กพอประมาณและมีดีไซน์เรียบง่าย เพื่อให้สามารถใช้งานเป็นที่นั่งทานอาหาร ที่นั่งทำงาน หรือที่นั่งเล่นของลูก ๆ ได้ตามความต้องการ หรือสามารถเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชันหลากหลาย (Multi - Function) สามารถพับเก็บได้หรือขยายความกว้างได้ เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้เหมาะสมกับพื้นที่และยังเหมาะกับการใช้งานในแต่ละช่วงเวลา นอกจากนี้ เรายังสามารถใช้เทคนิคการตกแต่งภายในอื่น ๆ เช่น การใช้สีสว่างที่ช่วยเพิ่มความกว้างให้กับห้อง หรือการใช้กระจกหรือวัสดุที่ใสเป็นผนังซึ่งช่วยเพิ่มความโปร่งใสให้กับภาพรวมของห้องและให้ความรู้สึกว่ามีพื้นที่ในห้องให้มากขึ้น ทั้งยังสามารถสร้างบรรยากาศที่ให้ทั้งความสวยงามและความทันสมัยไปในตัวด้วย
แนวทางที่ 3 มีพื้นที่ส่วนตัวที่เพียงพอสำหรับสมาชิกในบ้าน เพื่อให้ทุกคนสามารถมีการพักผ่อนและส่วนตัวได้อย่างเพียงพอ จึงต้องมีการแบ่งสัดส่วนมีพื้นที่อย่างห้องนอนและห้องน้ำซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่ทุกคนจะสามารถมีความเป็นส่วนตัวได้อย่างเต็มที่ให้มีควาทเพียงพอที่ต่อการใช้งานของสมาชิกในครอบครัว โดยควรคำนึงถึงเรื่องความสะดวกสบายในการใช้งานและความตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของสมาชิกแต่ละคนเด้วย และควรจัดพื้นที่อย่างพื้นที่สำหรับนั่งพักอ่านหนังสือหรือพื้นที่ที่ใช้ร่วมกันในบ้าน เช่น ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องทานอาหาร อย่างเป็นสัดส่วนและจัดให้เลย์เอาท์ของบ้านสามารถรองรับการอยู่ร่วมกันได้หลายคน เพื่อที่จะทำให้สมาชิกในครอบครัวนั้นสามารถใช้พื้นที่ร่วมกันได้อย่างสะดวกสบายและยังช่วยเสริมความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวได้อีกด้วย เพราะมีพื้นที่ที่ลงตัวกับทุกคนในบ้าน
แนวทางที่ 4 คำนึงถึงเรื่องของความปลอดภัยเป็นหลัก การให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในบ้านเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้สมาชิกในครอบครัวทุกคนสามารถใช้ชีวิตในบ้านได้อย่างสบายใจและปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุและเด็กเล็กที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและการบาดเจ็บได้ง่าย การเตรียมความปลอดภัยภายในบ้านสามารถทำได้โดยการเลือกใช้วัสดุและอุปกรณ์ที่มีการออกแบบเพื่อป้องกันอุบัติเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้พื้นไม้ที่มีความลึกที่เหมาะสมเพื่อลดการกระทบในกรณีที่เกิดการล้มหรือหกล้ม เลือกใช้กระเบื้องห้องน้ำที่มีค่ากันลื่นสูงเพื่อลดความเสี่ยงในการลื่นไหล และติดตั้งราวพยุงหรือราวกันตกในพื้นที่ที่ผู้สูงอายุอาจมีความเสี่ยงต่อการหกล้มอย่างในห้องน้ำ เป็นต้น ซึ่งการตกแต่งภายในบ้านเพื่อเพิ่มความปลอดภัยไม่เพียงแต่ช่วยให้สมาชิกในครอบครัวมีชีวิตที่ปลอดภัยและสะดวกสบาย แต่ยังเป็นการสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยความรักในครอบครัวอีกด้วย
...
